อากาศร้อนๆแบบนี้การดื่มน้ำเย็นให้สดชื่น แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำเย็นนั้นเป็นตัวการทำร้ายเราแบบที่เราคาดไม่ถึง…ไตเปรียบสเหมือนเครื่องกรองน้ำที่ ช่วยกรองของเสียจากเลือดของเรา ดึงเอาสิ่งสกปรกของเสียในเลือด ขับออกทางปัสสาวะได้อย่างไม่มีวันหยุด ปรับปรุงเลือด ที่มีแต่ของเสีย แล้วส่งต่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย อีกทั้งยังเป็นอวัยวะที่ช่วยขับดันเลือด ให้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างต่อเนื่อง แต่อวัยวะที่ทำงานให้กับเรา 24 ชั่วโมงแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีการบ่นใดๆ วันใดที่ไต อ่อนแอ ก็จะเริ่มส่งสัญญาณเตือนกับเรา เช่น
ปัสสาวะบ่อย อั้นปัสสาวะไม่ค่อยอยู่ ดื่มน้ำเข้าไปแล้วเข้าห้องน้ำบ่อยครั้ง กลางคืนต้องลุกขึ้นปัสสาวะหลายเที่ยว
มีอาการปวดเอว ปวดหลังอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานๆ
ปวดเมื่อยตามข้อและร่างกายง่าย เช่น ตามข้อต่อ เข่า ต้นคอ
น้ำในเลือดเหลือน้อย จนทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบตันได้ง่าย
เมื่อมองในรูปของธรรมชาติบำบัด ด้วยเหตุของไตอ่อนแอนั้นจึงทำร่างกายของเรา อุ้มน้ำไว้ได้น้อยลง ธาตุดินในร่างกายจึงแข็งตึงปวดตามร่างกายได้ง่าย หากจะแก้ไข ก็ต้องเริ่มต้นที่การบำรุง ดูแลรักษาไตให้ดี มิเช่นนั้นไตก็จะเสื่อมไปตามวัย แต่ในปัจจุบันนั้น อาการน้ำในเลือดน้อยมิได้เกิดจากวัยที่ชราขึ้นเพียงอย่างเดียว โดยมากเกิดจากการ ทานอาหารผิดประเภท จนทำให้เกิดโรคร้ายแรงทางเลือดและหลอดเลือดขึ้นได้
มีกรณีตัวอย่างคนไข้ที่มีความประมาทในเรื่องการรับประทานอาหาร ที่ต้องใช้รถเข็น เข็นเข้ามาพบหมอเพราะร่างกายซีกซ้ายเริ่มจะอ่อนแรงลง ขาซ้ายยังพอมีแรง ขยับบ้างแต่เดินยังไม่ได้ มือและแขนซ้ายไม่มีแรงเลย เอาแขนขวาหยิบแขนซ้ายโชว์ให้ดู กล้ามเนื้อแขนซ้าย ซึ่งก็เริ่มจะหายไปจนกลายเป็นเนื้อเหลวๆนิ่มๆ อ่านจากในสอบประวัติคนไข้มีพฤติกรรมที่ไม่ต่างกันคือ ทานแต่เนื้อสัตว์ ไม่ทานผักตั้งแต่เด็กๆ ที่สำคัญคือดื่มน้ำเย็น เป็นประจำตั้งแต่เด็ก ต้องน้ำเย็นเจี๊ยบจากตู้เย็น น้ำไม่เย็นทานไม่เป็น เพิ่งจะเริ่มหันมาทานอาหารสุขภาพ อาการอ่อนแรงครึ่งซีกซ้าย แต่ก็ยังคงมีพฤติกรรมทานน้ำเย็นอยู่
ก่อนที่จะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นร่างกายส่งสัญญาณเตือนมาหลายครั้ง เช่น มึนเวียนศีรษะง่าย มีแสงไฟแว๊บๆเวลากระพริบตา การพูดเริ่มติดขัด สุดท้ายมีอาการวูบกระทันหันต้องส่งเข้าโรงพยาบาล เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกครั้งซีกซ้ายก็ขยับไม่ได้เสียแล้ว หมอบอกว่านี่คืออาการเส้นเลือดตีบที่สมองเพราะทานแต่น้ำเย็นมาตลอดเวลา
การทานน้ำเย็นมากจนเกินพอดี สำหรับคนไทยนั้น ทำให้ไตและกระเพาะปัสสาวะต้องรีบ กำจัดความเย็นออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ขับน้ำเย็นมากักเก็บไว้ที่กระเพาะปัสสาวะ เตรียมนำออกทางปัสสาวะ ทำให้ผู้ที่ทานน้ำเย็น ก็ยิ่งขาดน้ำ จนเลือดข้นหนืดไปหมดเลือดข้นหนืดที่ทำให้หลอดเลือดของเราเริ่มแข็งกระด้าง ไม่ยืดหยุ่น มีของเสียไปยึดเกาะตามผนังหลอดเลือด จนเกิดการพอกพูนกลายเป็น โรคหลอดเลือดตีบ ก็เพราะน้ำเย็นที่ทานเข้าไปเอง
หากใครที่ยังทานน้ำเย็น นมเย็น กาแฟเย็น น้ำอัดลม น้ำหวาน ชาเย็น น้ำผลไม้แช่เย็น อยู่เป็นกิจวัตร ต้องขอเตือนว่า ให้รีบไปทำประกันโรคหลอดเลือดไว้ได้เลยมีโอกาสได้ใช้สูง เมื่อเกิดอาการหลอดเลือดในสมองตีบแล้วอย่าเพิ่งท้อแท้ ยังมีวิธีแก้ไขทางธรรมชาติบำบัด
ปรับปรุงหลอดเลือดที่แข็งตึงให้กลับมายืดหยุ่นได้ดี ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ ทานน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ร่วมกับ กระเทียม หรือ ขมิ้นชัน 1 แคปซูล ก่อนอาหาร เช้าและเย็น 20 นาที
ปรับเลือดที่ข้นหนืดให้หายข้นหนืดด้วยการเพิ่มน้ำเข้ากระแสเลือด ทานน้ำเปล่าให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน เพื่อเติมน้ำกลับเข้าเลือด ทานยาน้ำตรีผลาหรือจตุผลาธิกะ ให้เลือดของเราสามารถอุ้มน้ำได้ดีขึ้น ช่วงแรกต้องอดทนกับการปัสสาวะบ่อยเสียหน่อย
ทำให้เลือดไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำในท่าที่สามารถทำได้ หรือใช้การนวดเท้า หรือ นวดตัวช่วยให้เลือดไหลเวียนสม่ำเสมอ
งดการทานน้ำเย็นเด็ดขาด
งดเนื้อสัตว์ใหญ่ เนื้อวัว หมู ของทอด ของหวานจัด เพราะทำให้ร่างกายเกิดอนุมูลอิสระปริมาณมาก จนหลอดเลือดแข็งตีบตันได้ง่าย
เมื่อหลอดเลือดของเรากลับมายืดหยุ่นได้ดี พร้อมทั้งจัดการกับของเสียที่ไหลเวียนอยู่ในกระแสเลือดได้ เลือดดีจะกลับเข้าซ่อมแซมเซลล์สมองหากสมองส่วนนั้นยังไม่ฝ่อจนใช้การไม่ได้ เราก็ยังโอกาสหายจากโรคเส้นเลือดตีบที่สมองได้ ที่สำคัญคือไม่ควรกลับไปใช้วิถีชีวิตผิดๆอีก
เห็นมั้ยละว่าน้ำเย็นๆชื่นใจก็สามารถเป็นภัยกับร่างกายเราได้ เพราะฉะนั้นลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานมาดื่มน้ำอุณหภมิห้องสลับควบคู่กันไปเพื่อลดการทำงานของไตและเพื่อสสุขภาพของตัวคุณเองอีกด้วย